วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

เมื่องเพชรบูรณ์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติเพชรบูรณ์
จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองโบราณ ที่ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใครสร้างเมืองนี้ขึ้นเมื่อใดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชา นุภาพทรงวิเคราะห์ว่า เพชรบูรณ์สร้างขึ้นมา 2 ยุค ในแห่งเดียวกัน วัดมหาธาตุและวัดโบราณเป็นหลักฐานยืนยันว่า ยุคแรกสร้างเมื่อ เมืองเหนือคือ กรุงสุโขทัย หรือ พิษณุโลกเป็นเมืองหลวง มีลำน้ำอยู่กลางเมือง กำแพงเมืองกว้างยาวด้านละ 800 เมตร ยุคที่สอง สร้างในสมัย สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช มีป้อมและกำแพงก่อด้วยอิฐปูนศิลา แต่เล็กและเตี้ยกว่า มีแม่น้ำอยู่กลางเมือง กำแพงเมือง ขนาดเล็กลง ตั้งอยู่ทางป่าด้านเหนือ เพื่อป้องกันศัตรู ส่วนทางด้านใต้เป็นไร่นา จากหลักฐานการค้นพบซากโบราณสถาน และจากหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ ที่ค้นพบ ในเมืองศรีเทพ เพชรบูรณ์ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกับเมือง พิมาย. ลพบุรี และจันทบุรี ดังหลักฐานที่ประกฎ เช่น ซากตัวเมืองและพระปรางค์ บริเวณที่ตั้งเมือง เป็นที่ราบ มีกำแพงดินสูงรอบเมือง และล้อมรอบ ด้วยคูเมือง ภายในเมืองมีพระปรางค์ ซากเทวสถาน รูปเทพารักษ์ พระนารายณ์ รูปยักษ์สลักด้วยศิลาแล

ราหูอมจันทร์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติราหูอมจันทร์
ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า ราหูอมจันทร์ มาแล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า ทำไมราหูถึงต้องอมจันทร์
     เรื่องนี้มีที่มาจากตำนานของอินเดีย เรื่องมีอยู่ว่า มีฤๅษีตนหนึ่ง นามว่า ทุรวาส เป็นปางหนึ่งในการอวตารของพระศิวะ
    วันหนึ่ง พระอินทร์ได้ทรงช้างเอราวัณผ่านมา เมื่อฤๅษีทุรวาสเห็นก็ได้นำพวงมาลัยถวายแก่พระอินทร์ แต่เมื่อช้างเอราวัณได้กลิ่นของดอกไม้ก็มึนเมา และกระทืบพวงมาลัยจนเละ ส่วนพระอินทร์ก็มิได้กล่าวคำขอโทษใดๆ เลย ทำให้ฤๅษีทุรวาสโกรธมากและสาปให้เทวดาต้องพ่ายแพ้ทุกครั้งที่รบกับยักษ์
   และก็เป็นจริงดังว่า เมื่อเหล่าเทวดารบกับยักษ์เมื่อใด ก็ต้องพ่ายแพ้ทุกครั้ง เหล่าเทวดาจึงไปปรึกษาพระนารายณ์ พระนารายณ์ก็แนะนำว่าควรทำพิธีกวนเกษียรสมุทร หรือทะเลน้ำนม อันเป็นที่ประทับของพระองค์เองให้เกิดเป็นน้ำอมฤต เมื่อได้ดื่มน้ำอมฤตแล้ว ก็จะมีกำลังวังชาแข็งแรง และมีชีวิตเป็นอมตะ
  แต่การทำพิธีครั้งนี้ จะอาศัยแรงของเทวดาอย่างเดียวมิได้ เหล่าเทวดาจึงหลอกล่อให้เหล่ายักษ์มาช่วยทำพิธีด้วย โดยบอกว่า หากทำพิธีสำเร็จ จะแบ่งน้ำอมฤตให้พวกยักษ์ดื่มด้วยนจะทำอันตรายแก่ชาวโลก ด้วยเหตุนี้ พระศอ (คอ) ของพระศิวะ จึงมีสีดำตลอดมา
   เมื่อกวนเกษียรสมุทรจนได้ที่ ก็บังเกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายผุดขึ้นจากเกษียรสมุทร เช่น ดอกปาริชาติ ม้าอุจไฉศรพ และน้ำอมฤต เมื่อได้น้ำอมฤตแล้ว เหล่าเทวดาและยักษ์ก็แย่งชิงน้ำอมฤตกัน พระนารายณ์จึงได้แปลงกายเป็นนางอัปสรหลอกล่อให้เหล่ายักษ์พากันลุ่มหลง เปิดโอกาสให้เหล่าเทวดาได้ดื่มน้ำอมฤต
   แต่ทว่า ราหู ไม่หลงกลของพระนารายณ์ จึงได้แปลงกายเป็นเทวดาเข้ามาร่วมดื่มน้ำอมฤตด้วย แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์จำราหูได้ จึงไปกราบทูลพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงได้ขว้างจักรไปตัดตัวราหูขาดเป็นสองท่อน ซึ่งราหูดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว จึงไม่ตายเมื่อถูกตัดตัว และด้วยความแค้นที่ทำให้ตนต้องถูกตัดตัวจนพิการเช่นนี้ ราหูจึงได้ไล่จับพระอาทิตย์และพระจันทร์มากลืนกินด้วยความแค้น เป็นตำนานของราหูอมจันทร์นั่นเอง

ประวัติผีตาโขน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติผีตาโขน
ประวัติความเป็นมาของผีตาโขน
 ประเพณีผีตาโขน เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในอำเภอด่านซ้าย ของจังหวัดเลย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ทางภาคอีสานของไทย ไม่มีข้อมูลชัดแจ้งว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่มีข้อสันนิษฐว่าน่าจะมีตั้งแต่มี บุญหลวง คือบุญพระเวชสันดรและบุญบั้งไฟรวมกัน ซึ่งเป็นเวลานาน หลายร้อยปีมาแล้ว
เดิมผีตาโขน มีชื่อเรียกว่า ผีตามคน เป็นเทศกาลที่ได้รับอิทธิพลมาจาก มหาเวชสันดร ชาดกในทางพระพุทธศาสนา ที่กล่าวถึง พระเวชสันดร และ พระนางมัทรี จะออกเดินทางจากป่าสู่เมืองหลวง เหล่าบรรดาสัตว์นานาชนิดป่ารวมไปถึงภูตผีปิศาจหลายตนที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้น จึงได้ออกมาส่งเสด็จโดยแห่แหนแฝงตัวตน มากับชาวบ้าน ด้วยความอาลัยรัก
การละเล่นผีตาโขน
ผีตาโขน จัดได้ว่าเป็นการละเล่นชนิดหนึ่ง โดยที่ผู้เล่นจะทำรูปหน้ากาก ที่มีลักษณะหน้าเกลียดน่ากลัว มาสวมใส่ปกปิดใบหน้า รวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่ต้องปกปิดมิดชิดเช่นกัน แล้วเข้าขบวนแห่แสดงท่าทางต่างๆ ในงานบุญตามประเพณีประจำปีของท้องถิ่นพื้นบ้าน การละเล่นผีตาโขนจะมีในเดือนแปดข้างขึ้น และนิยมทำ 3 วัน คือ
วันแรก เป็นวันที่ชาวบ้านจะร่วมกันสร้างหออุปคุตและทำกระทงเล็กไปวางตามิศต่างๆจำนวนสี่ทิศด้วยกัน บนหอหลวงจะมีร่มขนาดใหญ่กางกั้นไว้ ถือเป็นวันแรกของการทำพิธี

มวยคาดเชือก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติมวยคาดเชือก
นักมวยที่จะขึ้นชกจะพันหมัดด้วยเชือกจนแข็ง ผูกเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของแต่ละคน ทั้งนี้ขึ้นกับการตกลงกันก่อนชก ก่อนชกกันนักมวยต้องมาซ้อมให้นายสนามดูก่อน ถ้ามีฝีมือใกล้เคียงกัน และทั้งคู่พอใจจะชกกันจึงถือว่าได้คู่ การต่อสู้จะชกกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือลุกไม่ขึ้น มิฉะนั้นถือว่าเสมอกัน ซึ่งอาจจะชกกันใหม่ในคราวต่อไปถ้ายังไม่หายข้องใจ การชกมวยแบบนี้จะเน้นชั้นเชิงมากกว่าพละกำลัง
สนามแข่งขันเป็นสนามหญ้าหรือลานวัด มีเชือกกั้น 1 เส้น มีกรรมการห้ามเพื่อจับผู้ล้มขึ้นมาชกใหม่ และห้ามไม่ให้ซ้ำเติมคนล้ม ในงานเผาศพผู้มีฐานะในสมัยก่อน นิยมให้มีมวยชกด้วย 7 - 8 คู่[1]
ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี (แมค เศียรเสวี) เริ่มจัดแข่งขันมวยไทยอาชีพครั้งแรกที่สนามมวยสวนกุหลาบ ต่อมาจึงเกิดสนามมวยอื่นๆอีกมากมาย เช่น สนามมวยท่าช้าง หลักเมือง สวนเจ้าเชตุ เสือป่า สวนสนุก เจ้านายสมัยนั้นโปรดการเลี้ยงนักมวยและเสาะหานักมวยฝีมือดีมาเข้าสังกัด จึงมีนักมวยจากหัวเมืองเข้ามาขกในกรุงเทพฯมาก ตัวอย่างเช่น กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีนักมวยเอกคือ หมื่นชงัดเชิงชก กับ โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ ม.ร.ว. มานพ ลดาวัลย์ มีนักมวยเอกคือบังสะเล็บ ศรไขว้ ในครั้งนั้นยังมีการคัดเลือกนักมวยเอกขึ้นชกหน้าพระที่นั่งและมีนักมวยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เช่น หลวงไชยโชกชกชนะหมื่นมวยมีชื่อหมื่นมือแม่นหมัด และ หมื่นชงัดเชิงชก[2][3]

แม่ไม้มวยไทย15ท่า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติแม่ไม้มวยไทย15ท่า
แม่ไม้มวยไทย หมายถึง ท่าของการผสมผสานการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อการรุกหรือรับในการต่อสู้ด้วยมวยไทย
การจะใช้ศิลปะไม้มวยไทยได้อย่างชำนาญ จะต้องผ่านการฝึกเบื้องต้นในการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก แต่ละอย่างให้คล่องแคล่วก่อน
จากนั้นจึงจะหัดใช้ผสมผสานกันไปทั้งหมัด เท้า เข่า ศอกและศิลปะการหลบหลีก ซึ่งขึ้นอยู่กับครูมวยที่จะคิดดัดแปลงพลิกแพลง
เพื่อนำไปใช้ให้ได้ผลแล้วตั้งขื่อท่ามวยนั้นๆ ตามลักษณะท่าทางให้จดจำได้ง่าย เมื่อมีท่ามวยมากขึ้นจึงจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่
หรือตั้งชื่อให้เรียกขานคล้องจองกันเพื่อลูกศิษย์จะได้ท่องจำและไม่ลืมง่าย ในอดีตมวยไทยไม่ได้ใส่นวมจะชกกันด้วยมือเปล่า
หรือใช้ผ้าดิบพันมือจึงสามารถใช้มือจับคู่ต่อสู้เพื่อทุ่ม หัก หรือบิดได้ นักมวยจึงใช้ชั้นเชิงในการต่อสู้มากกว่าการใช้พละกำลังจึงเกิด
ท่ามวยมากมาย ต่อมามีการกำหนดให้นักมวยไทยใส่นวมในขณะขึ้นชกแข่งขันเช่นเดียวกับมวยสากล และมีการออกกฎกติกาต่างๆ
เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่นักมวย และง่ายต่อการตัดสินท่ามวยที่มีมาแต่อดีตบางท่าจึงไม่สามารถนำมาใช้ในการแข่งขันได้
ถือว่าผิดกติกา และบางท่านักมวยก็ไม่สามารถใช้ได้ถนัดเนื่องจากมีเครื่องป้องกันร่างกายมาก ท่ามวยบางท่าจึงถูกลืมเลือนไปในที่สุด
โบราณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิได้แบ่งประเภทของไม้มวยไทยไว้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับครูมวยแต่ละท่าน แม้บางท่าจะมีชื่อเรียกต่างกันก็ตาม
ไม้มวยไทยที่มีการกล่าวถึงในตำรามวยหลายตำรา และแบ่งลักษณะไว้ชัดเจน คือแบ่งตามลักษณะการแก้ทางมวยและการจู่โจม เรียกชื่อว่า กลมวย
แบ่งตามลักษณะการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เรียกว่าเชิงมวย บางตำราแบ่งเป็นแม่ไม้ลูกไม้ หรือแบ่งเป็นไม้ครู ไม้เกร็ด ซึ่งไม้ครูหมายถึงไม้สำคัญเป็น
ไม้หลักที่ครูมวยเน้นให้ลูกศิษย์ทุกคนต้องทำให้ได้ ทำให้ดี และทำให้ชำนาญ เพราะเมื่อรู้และชำนาญเรื่องไม้ครูแล้ว จะสามารถแตกไม้ครูแต่ละแบบ
ออกเป็นไม้เกร็ดอีกมากมาย
แม่ไม้มวยไทย
แม่ไม้มวยไทย หมายถึงท่าของการใช้ศิลปะมวยไทยที่สำคัญที่สุด อันเป็นพื้นฐานของการใช้ไม้มวยไทย ซึ่งผู้ฝึกมวยไทยจะต้องเรียนรู้
และปฏิบัติให้ได้ก่อนที่จะฝึกลูกไม้ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ไม้มวยไทยที่ละเอียดขึ้น โบราณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิได้จัดแบ่งแม่ไม้มวยไทยเป็น 15 ไม้ ดังนี้
แม่ไม้ 15 ไม้
1. สลับฟันปลา 2. ปักษาแหวกรัง
3. ชวาซัดหอก 4. อิเหนาแทงกริช
5. ยอเขาพระสุเมรุ 6. ตาเถรค้ำฝัก
7. มอญยันหลัก 8. ปักลูกทอย
9. จระเข้ฟาดหาง 10. หักงวงไอยรา
11. นาคาบิดหาง 12. วิรุฬหกกลับ
13. ดับชวาลา 14. ขุนยักษ์จับลิง
15. หักคอเอราวัณ

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

มวยไทย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติ มวยไทย
๑) สมัยอยุธยา สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ หรือพระเจ้าเสือ โปรดการชกมวยมากจนทรงปลอมพระองค์มาชกมวยกับชาวบ้าน และชนะคู่ต่อสู้ถึง ๓ คน ดังที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ระบุไว้ในหนังสือ ศิลปะมวยไทยว่า พระเจ้าเสือได้ปลอมแปลงพระองค์เป็นสามัญชน มาชกมวยกับนักมวยฝีมือดีของเมืองวิเศษไชยชาญ และสามารถชกชนะนักมวยเอกถึง ๓ คน ได้แก่ นายกลาง หมัดตาย นายใหญ่ หมัดเหล็ก และนายเล็ก หมัดหนัก โดยทั้ง ๓ คน ได้รับความพ่ายแพ้อย่างบอบช้ำจากฝีมือการชกมวยไทยของพระองค์

เมื่อพระมหากษัตริย์โปรดการชกมวยไทยเช่นนี้ ทำให้มีการฝึกมวยไทยกันอย่างแพร่หลายในราชสำนัก และขยายไปสู่บ้านและวัด โดยเฉพาะวัด ถือเป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทวิชามวยไทยเป็นอย่างดี เพราะขุนศึกเมื่อมีอายุมากมักบวชเป็นพระ และสอนวิชาการต่อสู้ให้แก่ลูกศิษย์ที่ดี หรือมีความกตัญญูรู้คุณ โดยเฉพาะนักมวยเด่นในยุคหลังๆ ก็เกิดจากการฝึกฝนกับพระสงฆ์ในวัดแทบทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้การฝึกมวยไทยจึงแพร่หลาย และขยายวงกว้างไปสู่สามัญชนมากยิ่งขึ้น

ฮันโซ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติ ฮันโซ overwatch
Hanzo เป็นฮีโร่สาย Defense ที่มีความสามารถในการยิงจู่โจมศัตรูจากระยะไกลด้วยลูกธนูสารพัดประโยชน์ของฮันโซช่วยให้เขามองเห็นศัตรูจากมุมอับ และลูกธนูที่ยิงยังสามารถแตกออกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ โจมตีเป้าหมายได้ทีละหลายคน นอกจากนี้ยังไต่กำแพงขึ้นไปยิงธนูจากมุมสูง หรืออัญเชิญวิญญาณมังกรยักษ์ออกมาได้อีกด้วย